เคยได้ยินผู้ใหญ่หลายๆคนสอนในตอนเด็กกันไหมครับ ว่าแค่ตั้งใจทำงาน ออมเงินเยอะๆ แล้วเราจะรวย มีอิสรภาพทางการเงินได้ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเรื่องจริงในยุคก่อน พ.ศ. 2540 ที่ธนาคารเคยให้ดอกเบี้ยสูงเป็น 10% ต่อปี
แต่ในยุคปัจจุบันดอกเบี้ยจากเงินฝาก เหลือเพียง 1-2% ต่อปี แค่เพียงอัตราเงินเฟ้อ ก็อาจจะทำให้เงินของเรานั้นเท่าเดิม หรืออาจจะน้อยลงไปในอนาคต
เงินเฟ้อคือ ภาวะที่ระดับราคาสินค้าหรือบริการนั้นแพงขึ้น เช่น เมื่อก่อน ก๋วยเตี๋ยวอาจจะชามละ 20 บาท แต่ในปัจจุบันอาจจะเริ่มต้นที่ 40 บาท นั่นแหละครับคือเงินเฟ้อ เนื่องจากสินค้าจะมีราคาแพงขึ้น ทำให้มูลค่าของเงินที่เรามีนั้นลดลง
เราจะเห็นแล้วว่าถ้าเราอยากจะมั่งคั่ง การออมเงินอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เราต้องลงทุนด้วย ซึ่งการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวดีที่สุดก็คือหุ้น อ้างจากตลาดหลักทรัพย์แล้ว ผลตอบแทนหุ้นไทย ในปี 2551-2560 นั้น ให้ผลตอบแทนสูงถึง 11.61% ต่อปี
ถ้าคุณต้องการจะเป็นเจ้าของธุรกิจโรงไฟฟ้า ที่อาจจะต้องใช้เงินสร้างหลายร้อยหลายพันล้าน ถ้าจะลงทุนทำเองจะเห็นว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลย แต่ในตลาดหุ้น คุณสามารถเข้าไปซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าได้
ถ้าคุณทำธุรกิจเอง อาจจะต้องติดต่อคุณกับลูกค้า มีลูกน้อง หรือถ้าทำงานบริษัท ก็ต้องเจอเพื่อนร่วมงาน และหัวหน้า ซึ่งถ้าสังคมที่ทำงานมันไม่ดี ความสนุกในการทำงานคงลดลงไปแน่ๆ หรือถ้าลงทุนอสังหาริมทรัพย์คุณอาจจะต้องปวดหัวกับผู้เช่าได้ แต่ในตลาดหุ้นคุณมีแค่ตัวคุณเอง วิเคราะห์เอง ตัดสินใจเอง ไม่ต้องทะเลาะกับใคร
ถ้าคุณมีเงินก้อนนึงแล้วจะทำธุรกิจเอง คุณอาจจะทำได้อย่างเดียว แล้วถ้ามีปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้มากระทบกิจการตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง น้ำท่วม หรือมาตรการรัฐบาล เช่นการเพิ่มลดดอกเบี้ย ที่อาจจะกระทบกับรายได้และกำไรของธุรกิจที่คุณทำ ซึ่งถ้าลงทุนเพียงอย่างเดียวมันก็จะเป็นความเสี่ยง
แต่ในตลาดหุ้น คุณไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะในการจะเป็นเจ้าของกิจการๆหนึ่ง ทำให้คุณสามารถกระจายความเสี่ยง โดยการซื้อหลายๆกิจการจากหลายๆอุตสาหกรรมได้
ถ้าคุณลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การที่คุณจะเลิกทำ จะขายทิ้งนั้นต้องใช้เวลา กว่าจะประกาศขาย กว่าจะมีคนมาดูสินทรัพย์ กว่าจะขายและโอนได้ แต่หุ้นคุณสามารถสั่งขายได้ทันที (ยกเว้นหุ้นบางตัว ที่ไม่เป็นที่ต้องการของคนในตลาด สภาพคล่องก็จะต่ำได้เช่นกัน)
© 2024 Investich. All Rights Reserved.